นาฬิกาแบบมี BLUETOOTH

ข้อมูลสนับสนุน

GB-6900B/GB-X6900B
คู่มือผู้ใช้ฟังก์ชันเชื่อมต่อมือถือ (iPhone)

การตรวจสอบการเชื่อมต่อและการเชื่อมต่อใหม่

คุณสามารถตรวจสอบว่านาฬิกาเชื่อมต่อกับโทรศัพท์หรือไม่ โดยการดูที่ไอคอน Bluetooth () บนหน้าปัดนาฬิกา นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจสอบการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ได้ โดยการให้นาฬิกาส่งเสียงแจ้งด้วย

ปรากฏขึ้น

เชื่อมต่อแล้ว (เปิดใช้ฟังก์ชันเชื่อมต่อมือถือ)

ไฟกะพริบ

การเชื่อมต่อหลุดไปชั่วคราวและโทรศัพท์กำลังค้นหานาฬิกา หลังจากนั้นสักพัก ไอคอนจะหยุดกะพริบ (เชื่อมต่อแล้ว) หรือหายไปจากหน้าปัด (การเชื่อมต่อหลุดไป) โปรดดูส่วนต่างๆ ตามรายการด้านล่างนี้

การเชื่อมต่อใหม่อัตโนมัติ

ประหยัดพลังงาน

หลุดจากการเชื่อมต่อ

ไม่ปรากฏ

การเชื่อมต่อระหว่างนาฬิกากับโทรศัพท์หลุดไป โปรดดูส่วนต่างๆ ที่อธิบายไว้ด้านล่างนี้

สาเหตุที่ทำให้การเชื่อมต่อหลุดไป:

วิธีการเชื่อมต่อใหม่ในทันที

เมื่อต้องการตรวจสอบการเชื่อมต่อจากโทรศัพท์

ที่เมนูบนสุดของ G-SHOCK+ app แตะ "Link check" ถ้านาฬิกาดังขึ้น หมายความว่าโทรศัพท์กับนาฬิกาเชื่อมต่อกันแล้ว

การเชื่อมต่อใหม่อัตโนมัติ

ถ้านาฬิกากับโทรศัพท์ขาดการเชื่อมต่อเนื่องจาก หลุดจากการเชื่อมต่อ หรือเพราะโหมด ประหยัดพลังงาน เริ่มทำงาน จะมีการเชื่อมต่ออัตโนมัติใหม่อีกครั้งเมื่อมีเงื่อนไขตรงตามที่กำหนดแล้ว

การเชื่อมต่อใหม่อัตโนมัติจะเกิดขึ้นภายใต้เงื่อนไขดังต่อไปนี้:

  • โทรศัพท์ที่เชื่อมต่อล่าสุดกับนาฬิกาเปิดอยู่และเปิดใช้งาน Bluetooth
  • ไอคอน Bluetooth กะพริบที่หน้าปัดนาฬิกา และปรากฏหนึ่งในไอคอนที่ด้านล่างนี้เมื่อนำโทรศัพท์ที่เชื่อมต่อล่าสุดกับนาฬิกาเข้าไปใกล้ๆ กับนาฬิกา (ภายในหนึ่งเมตร)

    ไอคอน หลุดจากการเชื่อมต่อ
    แสดงเมื่ออยู่ในสถานะ หลุดจากการเชื่อมต่อ
    ไอคอนกำลังเชื่อมต่อ
    แสดงขณะที่นาฬิกากำลังพยายามเชื่อมต่อใหม่ทันที หลังจากนาฬิกากลับสู่สภาพเดิมจากสถานะ ประหยัดพลังงาน ฯลฯ
    ถ้าการเชื่อมต่อใหม่อัตโนมัติสำเร็จ ไอคอน Bluetooth จะหยุดกะพริบ (และยังคงปรากฏอยู่) และนาฬิกาจะกลับสู่โหมดบอกเวลาปกติ
    ถ้าการเชื่อมต่อใหม่อัตโนมัติล้มเหลว ไอคอน Bluetooth จะหายไปจากหน้าปัดนาฬิกา ทำตามขั้นตอนใต้หัวข้อ "เมื่อต้องการเชื่อมต่อใหม่ด้วยตนเองกับโทรศัพท์ที่เชื่อมต่อเครื่องล่าสุด" เพื่อเชื่อมต่อใหม่

การเชื่อมต่อใหม่อัตโนมัติจะไม่เกิดขึ้นภายใต้เงื่อนไขดังต่อไปนี้

ในกรณีนี้ ให้ดำเนินการตามหัวข้อ "เมื่อต้องการเชื่อมต่อใหม่ด้วยตนเองกับโทรศัพท์ที่เชื่อมต่อเครื่องล่าสุด"

การเชื่อมต่อใหม่ด้วยตนเอง

มีสามวิธีที่คุณสามารถใช้เพื่อทำการเชื่อมต่อใหม่ระหว่างนาฬิกากับโทรศัพท์ วิธีที่ควรใช้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การเชื่อมต่อใหม่ดังที่อธิบายไว้ด้านล่างนี้

เมื่อต้องการเชื่อมต่อใหม่ด้วยตนเองกับโทรศัพท์ที่เชื่อมต่อเครื่องล่าสุด

1.
ตรวจดูว่า Bluetooth เปิดใช้งานแล้ว
(1)
ในหน้าจอแรก แตะ "Settings" (การตั้งค่า)
ถ้าคุณใช้ iOS 5.1.1 แตะ "Settings" (การตั้งค่า) - "General" (ทั่วไป)
(2)
ถ้าเปิดใช้งาน Bluetooth อยู่แล้ว ให้ไปขั้นตอนที่ 2 ถ้าปิดใช้งานอยู่ แตะ "Bluetooth" แล้วแตะ [OFF] (ปิด) เพื่อเปิดใช้งาน Bluetooth
2.
นำโทรศัพท์มาไว้ใกล้กับนาฬิกา (ภายในระยะหนึ่งเมตร)
3.
ในโหมดบอกเวลาปกติ กดปุ่ม B ค้างไว้สองวินาทีแล้วปล่อยทันทีหลังจากหน้าปัดแสดงผลดังด้างล่างนี้
  • ไอคอน Bluetooth ของนาฬิกาจะกะพริบเพื่อแสดงว่าโทรศัพท์กำลังค้นหานาฬิกา รอประมาณหนึ่งนาที ถ้าไอคอน Bluetooth ของนาฬิกาหยุดกะพริบและปรากฏขึ้น หมายความว่าการเชื่อมต่อใหม่สำเร็จแล้ว
  • ถ้าไม่ปรากฏไอคอน Bluetooth อีก ให้เริ่มต้นใหม่ตั้งแต่ขั้นตอนที่ 1
  • ถ้าคุณไม่สามารถเชื่อมต่อได้หลังจากลองแล้วสองสามครั้ง อาจหมายความว่า เกิดปัญหากับข้อมูลการจับคู่ ถ้าเกิดกรณีนี้ ทำตามขั้นตอนใต้หัวข้อ "เมื่อต้องการจับคู่นาฬิกากับโทรศัพท์ใหม่เพื่อเชื่อมต่อใหม่"

เมื่อต้องการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ที่ไม่ใช่เครื่องที่เชื่อมต่อล่าสุด

ถ้านาฬิกาเชื่อมต่อกับโทรศัพท์หลายเครื่อง คุณสามารถใช้ขั้นตอนด้านล่างนี้เพื่อเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ที่จับคู่ ซึ่งไม่ใช่โทรศัพท์เครื่องที่เชื่อมต่อล่าสุด

1.
ปิด Bluetooth บนโทรศัพท์ที่นาฬิกาเชื่อมต่อด้วยล่าสุด
2.
เปิด Bluetooth บนโทรศัพท์ที่คุณต้องการเชื่อมต่อ
(1)
บนหน้าจอแรกของโทรศัพท์ แตะไอคอน G-SHOCK+ เพื่อเริ่มต้น G-SHOCK+ app ใหม่
(2)
กลับไปที่หน้าจอแรกแล้วแตะ "Settings" (การตั้งค่า)
ถ้าคุณใช้ iOS 5.1.1 แตะ "Settings" (การตั้งค่า) - "General" (ทั่วไป)
(3)
ถ้าเปิดใช้งาน Bluetooth อยู่แล้ว ให้ไปขั้นตอนที่ 3 ถ้าปิดใช้งานอยู่ แตะ "Bluetooth" แล้วแตะ [OFF] (ปิด) เพื่อเปิดใช้งาน Bluetooth
3.
นำโทรศัพท์มาไว้ใกล้กับนาฬิกา (ภายในระยะหนึ่งเมตร)
4.
เมื่อนาฬิกาอยู่ในโหมดบอกเวลาปกติ กดปุ่ม B ค้างไว้ประมาณสามวินาที
  • เมื่อคุณกดปุ่ม B ค้างไว้ ไอคอนกำลังเชื่อมต่อจะปรากฏขึ้นหลังจากเวลาประมาณสองวินาที กดปุ่มค้างไว้ต่อไปประมาณอีกหนึ่งวินาที แล้วหน้าจอหน่วยความจำการจับคู่เช่นที่แสดงไว้ด้านล่างนี้จะปรากฏขึ้น

    หน้าจอหน่วยความจำการจับคู่

5.
ที่นาฬิกา ใช้ปุ่ม D เลื่อนไปตามตำแหน่งหน่วยความจำการจับคู่ จนกระทั่งพบรายการโทรศัพท์ที่คุณต้องการเชื่อมต่อด้วย
  • การกดปุ่ม D แต่ละครั้งจะเป็นการเลื่อนไปตามรายการโทรศัพท์ที่จับคู่ในตำแหน่งหน่วยความจำการจับคู่ตามลำดับหมายเลข
6.
กดปุ่ม B
  • ไอคอน Bluetooth ของนาฬิกาจะกะพริบเพื่อแสดงว่าโทรศัพท์กำลังค้นหานาฬิกา รอประมาณหนึ่งนาที ถ้าไอคอน Bluetooth ของนาฬิกาหยุดกะพริบและปรากฏขึ้น หมายความว่าการเชื่อมต่อใหม่สำเร็จแล้ว
  • ถ้าไม่ปรากฏไอคอน Bluetooth อีก ให้เริ่มต้นใหม่ตั้งแต่ขั้นตอนที่ 2
  • ถ้าคุณไม่สามารถเชื่อมต่อได้หลังจากลองแล้วสองสามครั้ง อาจหมายความว่า เกิดปัญหากับข้อมูลการจับคู่ ถ้าเกิดกรณีนี้ ทำตามขั้นตอนใต้หัวข้อ "เมื่อต้องการจับคู่นาฬิกากับโทรศัพท์ใหม่เพื่อเชื่อมต่อใหม่"

เมื่อต้องการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ที่ไม่ใช่เครื่องที่เชื่อมต่อในขณะนี้

ถ้านาฬิกาเชื่อมต่อกับโทรศัพท์หลายเครื่อง และคุณต้องเปลี่ยนการเชื่อมต่อจากโทรศัพท์เครื่องปัจจุบันไปเป็นเครื่องอื่น ขั้นแรก ให้ยกเลิกการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ปัจจุบันแล้วเชื่อมต่อกับโทรศัพท์เครื่องอื่น (ที่มีการจับคู่กับนาฬิกาไว้แล้ว)

1.
ในโหมดบอกเวลาปกติ กดปุ่ม B ค้างไว้ประมาณสองวินาทีจนกระทั่งไอคอน Bluetooth บนหน้าปัดนาฬิกาหายไป
  • นี่คือการสิ้นสุดการเชื่อมต่อในปัจจุบันระหว่างนาฬิกากับโทรศัพท์
2.
ปิดใช้งาน Bluetooth ของโทรศัพท์ที่นาฬิกาเพิ่งเชื่อมต่อด้วย
3.
เปิด Bluetooth บนโทรศัพท์ที่คุณต้องการเชื่อมต่อ
(1)
บนหน้าจอแรกของโทรศัพท์ แตะไอคอน G-SHOCK+ เพื่อเริ่มต้น G-SHOCK+ app ใหม่
(2)
กลับไปที่หน้าจอแรกแล้วแตะ "Settings" (การตั้งค่า)
ถ้าคุณใช้ iOS 5.1.1 แตะ "Settings" (การตั้งค่า) - "General" (ทั่วไป)
(3)
ถ้าเปิดใช้งาน Bluetooth อยู่แล้ว ให้ไปขั้นตอนที่ 4 ถ้าปิดใช้งานอยู่ แตะ "Bluetooth" แล้วแตะ [OFF] (ปิด) เพื่อเปิดใช้งาน Bluetooth
4.
นำโทรศัพท์มาไว้ใกล้กับนาฬิกา (ภายในระยะหนึ่งเมตร)
5.
ในโหมดบอกเวลาปกติ กดปุ่ม B ค้างไว้ประมาณสามวินาที
  • เมื่อคุณกดปุ่ม B ค้างไว้ ไอคอนกำลังเชื่อมต่อจะปรากฏขึ้นหลังจากเวลาประมาณสองวินาที กดปุ่มค้างไว้ต่อไปประมาณอีกหนึ่งวินาที แล้วหน้าจอหน่วยความจำการจับคู่เช่นที่แสดงไว้ด้านล่างนี้จะปรากฏขึ้น

    หน้าจอหน่วยความจำการจับคู่

6.
ที่นาฬิกา ใช้ปุ่ม D เลื่อนไปตามตำแหน่งหน่วยความจำการจับคู่ จนกระทั่งพบรายการโทรศัพท์ที่คุณต้องการเชื่อมต่อด้วย
  • การกดปุ่ม D แต่ละครั้งจะเป็นการเลื่อนไปตามรายการโทรศัพท์ที่จับคู่ในตำแหน่งหน่วยความจำการจับคู่ตามลำดับหมายเลข
7.
กดปุ่ม B
  • ไอคอน Bluetooth ของนาฬิกาจะกะพริบเพื่อแสดงว่าโทรศัพท์กำลังค้นหานาฬิกา รอประมาณหนึ่งนาที ถ้าไอคอน Bluetooth ของนาฬิกาหยุดกะพริบและปรากฏขึ้น หมายความว่าการเชื่อมต่อสำเร็จแล้ว
  • ถ้าไม่ปรากฏไอคอน Bluetooth อีก ให้เริ่มต้นใหม่ตั้งแต่ขั้นตอนที่ 3
  • ถ้าคุณไม่สามารถเชื่อมต่อได้หลังจากลองแล้วสองสามครั้ง อาจหมายความว่า เกิดปัญหากับข้อมูลการจับคู่ ทำตามขั้นตอนใต้หัวข้อ "เมื่อต้องการจับคู่นาฬิกากับโทรศัพท์ใหม่เพื่อเชื่อมต่อใหม่"

เมื่อต้องการจับคู่นาฬิกากับโทรศัพท์ใหม่เพื่อเชื่อมต่อใหม่

1.
ที่โทรศัพท์ ยกเลิกการจับคู่กับนาฬิกา
(1)
ที่เมนูบนสุดของ G-SHOCK+ app แตะรายการต่อไปนี้ตามลำดับ: "General" - "Delete pairing"
(2)
บนหน้าที่ปรากฏขึ้น ให้แตะ "Delete pairing"
  • ข้อมูลการจับคู่ของที่เก็บไว้ใน G-SHOCK+ app จะถูกลบออก
(3)
แตะปุ่ม Home เพื่อกลับไปที่หน้าจอแรกแล้วแตะ "Settings" (การตั้งค่า)
ถ้าคุณใช้ iOS 5.1.1 แตะ "Settings" (การตั้งค่า) - "General" (ทั่วไป)
(4)
ถ้าเปิดใช้งาน Bluetooth อยู่แล้ว ให้ไปขั้นตอนที่ (5) ถ้าปิดใช้งานอยู่ แตะ "Bluetooth" แล้วแตะ [OFF] (ปิด) เพื่อเปิดใช้งาน Bluetooth
(5)
แตะ ถัดจาก "CASIO GB-6900B" หรือ "CASIO GB-X6900B" แล้วแตะข้อความ "Forget this Device" (ลืมอุปกรณ์นี้) ที่ปรากฏขึ้น
  • รุ่น "CASIO GB-6900B" หรือ "CASIO GB-X6900B" จะหายไปจากหน้าจอ แสดงว่าโทรศัพท์ยกเลิกการจับคู่กับนาฬิกาแล้ว
2.
ถ้ามีไอคอน Bluetooth บนนาฬิกา ให้เข้าสู่โหมดบอกเวลาปกติ แล้วกดปุ่ม B ค้างไว้ประมาณสองวินาทีจนกระทั่งไอคอนหายไป
3.
ที่นาฬิกา ยกเลิกการจับคู่กับโทรศัพท์ที่คุณต้องการเชื่อมต่อใหม่
(1)
ในโหมดบอกเวลาปกติ กดปุ่ม C หกครั้งเพื่อเข้าสู่โหมดตั้งค่า
  • [SETUP] จะปรากฏขึ้นบนหน้าปัดประมาณหนึ่งวินาที จากนั้นจะมีชื่ออุปกรณ์นาฬิกาปรากฏขึ้น

    หน้าจอชื่ออุปกรณ์นาฬิกา

(2)
กดปุ่ม D เพื่อแสดงหน้าจอชื่ออุปกรณ์โทรศัพท์
  • ซึ่งจะแสดงหมายเลขตำแหน่งหน่วยความจำการจับคู่ของโทรศัพท์ ที่เชื่อมต่อกับนาฬิกาล่าสุด

    หน้าจอชื่ออุปกรณ์โทรศัพท์

(3)
กดปุ่ม D เพื่อแสดงตำแหน่งหน่วยความจำการจับคู่ตามลำดับหมายเลขของโทรศัพท์ที่คุณไม่สามารถเชื่อมต่อใหม่
  • การกดปุ่ม D แต่ละครั้งจะเป็นการเลื่อนไปตามรายการโทรศัพท์ที่จับคู่ในตำแหน่งหน่วยความจำการจับคู่ตามลำดับหมายเลข
(4)
กดปุ่ม B ค้างไว้จนกว่าหน้าปัดนาฬิกาจะเปลี่ยนจาก "CLEAR" เป็น "[NEW]" ปล่อยปุ่ม B ทันทีที่ "[NEW]" ปรากฏขึ้น
4.
กดปุ่ม C เพื่อกลับไปที่โหมดบอกเวลาปกติ
5.
ทำตามขั้นตอนใต้หัวข้อ "การจับคู่เมื่อนาฬิกายังไม่มีการจับคู่กับโทรศัพท์เครื่องใดๆ" (เมื่อผลลัพธ์การยกเลิกการจับคู่แสดงว่า ไม่มีการจับคู่ระหว่างนาฬิกากับโทรศัพท์อีก) หรือ "การจับคู่เมื่อนาฬิกามีการจับคู่กับโทรศัพท์เครื่องอื่นแล้ว" (เมื่อมีการจับคู่อื่นอย่างน้อยหนึ่งคู่ระหว่างนาฬิกากับโทรศัพท์)